ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ต่างๆ ภัยเงียบที่อาจคร่าชีวิตคุณ
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ต่างๆ ภัยเงียบที่อาจคร่าชีวิตคุณ
ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดต่อที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูหนาว หลายคนอาจคิดว่าไข้หวัดใหญ่เป็นแค่โรคธรรมดา แต่ความจริงแล้วไข้หวัดใหญ่สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะในคนที่อายุน้อย ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (influenza virus) เป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้ผ่านการไอ จาม หรือสัมผัสผู้ที่ติดเชื้อไวรัส พบบ่อยในฤดูฝน (มิถุนายน-ตุลาคม) และฤดูหนาว (มกราคม-มีนาคม) ของทุกปี
อาการของไข้หวัดใหญ่
อาการของไข้หวัดใหญ่มักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันภายใน 1-4 วันหลังจากได้รับเชื้อไวรัส อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่
- ไข้สูง 38-40 องศาเซลเซียส
- ปวดศีรษะ
- เจ็บคอ
- ไอแห้งๆ
- คัดจมูกน้ำมูกไหล
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- อ่อนเพลีย
ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
ในบางราย ไข้หวัดใหญ่อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น
- ปอดบวม
- โรคหัวใจ
- โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคหูชั้นกลางอักเสบ
- โรคปอดอักเสบ
สาเหตุของไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (influenza virus) ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดต่อที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูหนาว เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (influenza virus) ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ A, B และ C แต่ละสายพันธุ์สามารถแบ่งย่อยออกเป็นอีกหลายสายพันธุ์ย่อย สายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน ได้แก่ A(H3N2) และ B
เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ตลอดเวลา ทำให้ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ซ้ำได้หลายครั้ง อาการของโรคจะมีตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงอาการที่รุนแรงและเสียชีวิตได้
การแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดใหญ่
เชื้อไข้หวัดใหญ่สามารถแพร่กระจายได้ผ่านการสัมผัสละอองฝอยจากการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อ ซึ่งละอองฝอยเหล่านี้มีขนาดเล็กมาก สามารถลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายชั่วโมงและอาจแพร่กระจายผ่านอากาศหรือพื้นผิวที่สัมผัสเชื้อ ผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 วันก่อนมีอาการและจะแพร่เชื้อต่อไปอีก 3-5 วันหลังมีอาการในผู้ใหญ่ ส่วนในเด็กอาจแพร่เชื้อได้นานกว่า 7 วัน ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แต่ไม่มีอาการก็สามารถแพร่เชื้อได้เช่นกัน
วิธีแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดใหญ่
- การไอหรือจามของผู้ติดเชื้อ
- การพูดคุยหรือหัวเราะของผู้ติดเชื้อ
- การสัมผัสมือของผู้ติดเชื้อแล้วสัมผัสใบหน้า
- การสัมผัสพื้นผิวหรือวัตถุที่มีเชื้อไข้หวัดใหญ่แล้วนำมือมาสัมผัสใบหน้า
การป้องกันไข้หวัดใหญ่
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่คือการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี นอกจากนี้ ยังสามารถลดความเสี่ยงในการติดไข้หวัดใหญ่ได้โดย
- ล้างมือให้สะอาดบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้เจลแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีไข้ ไอ จาม
- สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชนหรือพื้นที่แออัด
- ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
อันตรายของไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่สามารถทำให้เกิดอาการต่างๆ ดังนี้
- ไข้สูง
- ปวดศีรษะ
- เจ็บคอ
- ไอแห้งๆ
- คัดจมูกน้ำมูกไหล
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- อ่อนเพลีย
เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรปฏิบัติตัวดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
- ดื่มน้ำให้มาก อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- กินอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย
- ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัว เพื่อลดไข้และบรรเทาอาการปวดเมื่อย
- ใช้ยาบรรเทาอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวด ยาแก้ไอ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
หากมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส หายใจลำบาก ไอมีเสมหะเขียวหรือเหลือง ปวดศีรษะรุนแรง ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง อ่อนเพลียมาก ควรรีบไปพบแพทย์
แหล่งอ้างอิงทางวิชาการที่สนับสนุนข้อเท็จจริงนี้ ได้แก่
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญงานเขียน
นามปากกา : นกเหยี่ยว