มะเร็งเต้านม สัญญาณอันตรายที่ควรรู้จัก

มะเร็งเต้านม สัญญาณอันตรายที่ควรรู้จัก

ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม

มะเร็งเป็นโรคที่ร้ายแรงและเงียบที่สุด มันใช้เวลานานในการเจริญเติบโตและรักษาตัวในระยะที่ต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมันทำลายชีวิตของคน แต่หากคุณใส่ใจรักษาสุขภาพของตนเองและสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลา อาจพบว่าคุณเป็นโรคมะเร็งในระยะแรกและมีโอกาสรักษาให้หายหรือดีขึ้นอย่างชัดเจน และสามารถหลีกเลี่ยงการเป็นผู้ป่วยได้

มะเร็งเต้านม

มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งอันดับต้นๆ ที่ครอบคลุมชีวิตของผู้หญิงไทยในประเทศเรา แต่หากคุณสังเกตุร่างกายของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ คุณจะรู้ว่าร่างกายได้ส่งสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความผิดปกติภายในร่างกายของคุณแล้ว

สาเหตุของมะเร็งเต้านมที่ยังไม่แน่ชัด

สิ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมยังไม่ได้รับการสืบสวนอย่างแน่ชัดในวงการแพทย์ แต่ก็มีปัจจัยที่สนับสนุนให้เกิดโรคนี้ได้ คือฮอร์โมนเอสโตรเจน ในผู้หญิงที่กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เนื้อเยื่อเต้านมมากเกินไป ทำให้เกิดการเจริญเติบโตผิดปกติ โดยที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมการเจริญเติบโตเหล่านี้ได้ ทำให้เซลล์เหล่านั้นกลายเป็นเซลล์มะเร็งและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย

ประเภทของมะเร็งเต้านม

จริงๆ แล้วมะเร็งเต้านมมีหลายประเภท แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือมะเร็งท่อน้ำนม โดยมีเซลล์มะเร็งแบ่งตัวจนถึงเนื้อเยื่อท่อน้ำนมหรือเส้นเลือด และเซลล์มะเร็งจะแพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น กระดูก ปอด ตับ หรือสมอง จุดเด่นของมะเร็งเต้านมคือไม่มีอาการที่ทรมาน ไม่เจ็บปวด แต่มีก้อนเนื้อที่สัมผัสได้ แต่ไม่มีความรู้สึก ซึ่งทำให้ผู้หญิงบางคนละเลยคิดว่าไม่มีอะไรผิดปกติ จนกว่าโรคจะลุกลามและเริ่มแสดงอาการอื่นๆ

ปัจจัยเสี่ยงที่มีต่อการเป็นมะเร็งเต้านม

มีปัจจัยที่เสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม ดังนี้:

  1. พันธุกรรม หากมีคนในครอบครัวที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน มีโอกาสที่จะสืบต่อเป็นมะเร็งได้สูงขึ้น
  2. เพศหญิง มะเร็งเต้านมพบบ่อยกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
  3. อายุ 40 ปีขึ้นไป ความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งเต้านมจะสูงขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น
  4. เคยเข้ารับการผ่าตัดก้อนเนื้อที่เต้านม หากเคยมีก้อนเนื้อที่เต้านมและเคยผ่าตัดก้อนเนื้อนั้นออกมา มีโอกาสที่จะเกิดมะเร็งเต้านมได้
  5. ไม่มีบุตร หรือมีบุตรยาก ผู้หญิงที่ไม่เคยมีลูก หรือมีลูกยาก อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมสูงขึ้น
  6. รับประจำเดือนยากลุ่มฮอร์โมน การรับประจำเดือนยากหรือยากลำบาก เป็นเวลานานกว่า 10 ปี อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม

วิธีการตรวจสอบมะเร็งเต้านม

การตรวจสอบมะเร็งเต้านมเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงควรทำเป็นประจำ เพื่อค้นหาการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อในเต้านมตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งจะช่วยให้การรักษามะเร็งเต้านมเกิดขึ้นทันทีเมื่อพบก้อนเนื้อ วิธีการตรวจมะเร็งเต้านมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่:

  1. การตรวจด้วยตนเอง (Breast self-examination): ผู้หญิงสามารถตรวจสอบมะเร็งเต้านมด้วยตนเองได้โดยประจำ เพื่อค้นหาก้อนเนื้อหรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเต้านม
  2. การตรวจโดยแพทย์ (Clinical breast examination): แพทย์หรือพยาบาลจะทำการตรวจสอบเต้านมเพื่อค้นหาการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ในกรณีที่พบสิ่งผิดปกติ เช่น ก้อนเนื้อ หรือการคัดกรองที่ดูไม่ปกติ อาจจะแนะนำให้ทำการตรวจเพิ่มเติม
  3. การตรวจด้วยอุปกรณ์คลื่นเสียง (Ultrasound): ใช้คลื่นเสียงสูงสำหรับตรวจสอบเนื้อเยื่อในเต้านม มีความปลอดภัยและไม่เจ็บปวด
  4. การตรวจด้วยภาพถ่ายรังสี (Mammogram): เป็นการถ่ายภาพเต้านมโดยใช้รังสีเอ็กซ์ ซึ่งสามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

การป้องกันและการรักษามะเร็งเต้านม

การตรวจสอบเนื้องอกในระยะเริ่มต้นจะช่วยให้มีโอกาสรักษามะเร็งเต้านมได้มากขึ้น และลดความเสี่ยงในการเจริญเติบโตและแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ยังมีวิธีการป้องกันโรคมะเร็งเต้านมที่สามารถทำได้ดังนี้:

  1. การตรวจเอ็กซ์เร็มประจำ ผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปควรทำการตรวจเอ็กซ์เร็ม (mammogram) ประจำทุก 1-2 ปี เพื่อค้นหาความผิดปกติที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
  2. การตรวจด้วยตนเอง ผู้หญิงควรตรวจสอบมะเร็งเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำ เพื่อค้นหาการเปลี่ยนแปลงในเต้านม เช่น ก้อนเนื้อ หรือการคัดกรองที่ไม่ปกติ
  3. การปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต การรักษาพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยง เช่น เลิกสูบบุหรี่ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีโภชนาการสมดุล เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม
  4. การป้องกันการติดเชื้อ HPV การฉีดวัคซีนป้องกัน HPV ชนิดที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านมสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งได้
  5. การคัดกรองทางพันธุกรรม หากมีคนในครอบครัวที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบความเสี่ยงทางพันธุกรรมและการคัดกรองที่เกี่ยวข้อง

หากพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม การรักษาจะขึ้นอยู่กับขนาดและความรุนแรงของเนื้องอก แต่อาจรวมถึงการผ่าตัดเนื้องอก การรักษาด้วยรังสี เคมีบำบัด หรือการรักษาแบบผสมผสาน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความต้องการของผู้ป่วย